วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

หลักฮวงจุ้ย ที่ควรรู้

1. บ้านพักที่ใหญ่โตเกินไป แต่ในบ้านมีคนพักน้อย ไม่เป็นมงคลจะทำกินไม่ขึ้น ในครอบครัวจะดีมาก ทำให้อบอุ่น ทำกินร่ำรวย
2. บ้านที่มีหลังบ้านข้างบ้านมีตึกสูงกว่าดี แต่อย่าชิดเกินไป
3. บ้านสองบ้านที่เล็งกัน บ้านฝั่งที่ต่ำกว่านับว่าไม่เป็นมงคล, บ้านที่สร้างขวางทางยาว แต่กินที่แคบไม่ลึกไม่เป็นมงคล
4. บ้านใดที่ปลูกต้นไผ่ แล้วคนภายนอกมองไม่เห็นคนในบ้าน จะทำให้คนอยู่อาศัยจะพบความเจริญ
5. บ้านของลูก ๆ ไม่ควรสร้างในลานบ้านของพ่อแม่ ครอบครัวจะยากจนลง แต่ลูกคนโตไม่เป็นไร ให้หันประตู
6. บ้าน ตามรหัสราศีปีเกิด หรือตามทิศของโป้ยข่วย คือ ทิศตะวันออก
7. บ้านที่มีตึกสูงอยู่ใกล้ แสดงถึงมีผู้มาให้ความช่วยเหลือคุ้มครองและอย่านำต้นไม้ที่เป็นรากมาประดับโดยแขวน รากชี ฟ้าจะไม่เป็นมงคล
8. บ้านที่มีลานโล่งห้ามล้อมรั้วกลางลานโล่งจะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคตา หัวใจ
9. บ้านที่อยู่รวมกัน ห้ามเอาหลังคาชนกันจะไม่เป็นมงคล บ้านชั้นเดียว ถ้าคับแคบให้ปลูกเพิ่มเติม ต้องแก้เคล็ด
10. บ้านควรปลูกเป็นรูปสี่เหลี่ยม ไม่ควรปลูกส่วนเกิด ส่วนขาด จะเป็นอัปมงคล เสียหาย
11. บ้านอย่าแขวงเครื่องประดับมากเกินไป โดยเฉพาะนอแรด เขากระทิง หัวสัตว์ที่ดุร้ายไม่ควรแขวนเลย เพราะ วิญญาณมักจะตามมาทวงและรบกวนเจ้าของบ้าน
12. บ้านเล็กอย่าสร้างประตูใหญ่จะเกิดปากเสียงทำกินไม่ขึ้น
13. บ้านไม่ควรเจาะหลังคา นะไม่เป็นมงคล ถ้ากลัวว่าทึบก็ให้ใช้กระเบื้องใสแทน
14. บ้านหลังเดียว ควรมีประตูหลังบ้านถึงจะเป็นมงคล
15. บ้านผู้ดีมีเงินมักสร้างศาลาพักผ่อนยื่นออกมา ตามหลักฮวงจุ้ยห้ามสร้างบ้านยื่น ขาด เว้า แหว่ง จะมีอันเป็นไป ต้อง ปลุกต้นไม้รับตัวบ้านและศาลาที่สร้างต้องรวมกันให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม
16. บ้านที่มีกำแพงเก่าควรทาสีให้ใหม่เสมอ เวลากลางคืนควรติดไฟให้สว่างจะพบแต่ความเจริญ
17. บ้านที่มีที่ดินด้านหลังบ้านแคบหน้าบ้านกว้างไม่เป็นมงคลให้แก้เคล็ดโดยการติดกระจก บริเวณที่แคบทั้งสองด้าน เพื่อเวลามองแล้วจะรู้สึกกว้าง ลึก
18. บ้านที่มีหน้าบ้านแคบแต่หลังบ้านกว้างเป็นถุงเงินถุงทองดี บ้านที่ปลูกแล้วดูเป็นรูป W, L ไม่เป็นมงคล
19. บ้านที่มีกำแพงสูงมากเกินไป เช่นสูงเกิน 2 เมตร ไม่เป็นมงคล (เหมือนคุก)
20. บ้านที่สร้างแล้วมีความลึกมากกว่าความกว้างงอยู่แล้วจะเจริญรุ่งเรือง, บ้านที่สร้างตามความลึกเป็นมงคล
21. บ้านที่มีการปลูกหน้าบ้านยาวแต่แคบไม่เป็นมงคล , บ้านหรือที่ดินบ้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสเป็นมงคลยิ่ง
22. บ้านสร้างบ้านอยู่บนเนินเขา ไม่ดี, บ้านสูงต่ำ เล่นระดับ ไม่ดี, บ้านมีห้องใต้ดินอยู่กลางบ้าน ไม่ดี
23. บ้านที่แหว่งบางส่วน คนในบ้านจะมีอันเป็นไป เช่น ถ้าแหว่งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หมายถึงแม่หรือหญิงเจ้าของ บ้าน ถ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือคือ พ่อ หรือชายเจ้าของบ้าน
24. บ้านที่แหว่งทิศตะวันออก และตะวันตกผลกระทบ คือลูกชายคนโต และลูกสาวคนเล็ก ไม่เป็นมงคล ต้องแก้เคล็ด
25. บ้านหรือพื้นที่เว้าแหว่ง ทิศเหนือและใต้จะเสียหายแก่ลูกสาวงคนกลาง (ทิศใต้) ลูกชายคนกลาง (ทิศเหนือ) จะมีเรื่องคดีความ, บ้านด้านหนึ่งมีปล่องควันปล่องควันแทนก้านธูปไหว้คนตายไม่ดี
26. บ้านที่ตะวันออกเฉียงเหนือแหว่งจะเกิดเสียหายแก่ลูกชายคนเล็กและระบบย่อยอาหาร
27. บ้านหรือที่ดินที่เว้า แหส่ง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีผลกระทบกับพ่อ หรือชายเจ้าของบ้าน และผู้คนในครอบครัว บ้านที่เป็นรูปทรงหน้ากว้างหลังแคบจะเก็บเงินไม่อยู่ จะยากจน
28. บ้านที่แหว่งจะทำให้ครอบครัวไม่มีความเจริญรุ่งเรือง และถ้าแหว่งทางทิศตะวันออกจะมีผลกระทบเกี่ยวกับลูกชายคนโต บ้านที่มีหลังคาด้านซ้ายยาว ด้านขวาสั้น ภายในครอบครัวจะพบภัยพิบัติ
29. บ้านเวลาปลูกอย่าตั้งเสาข้างหนึ่งสูงข้าง ข้างหนึ่งเตี้ย จะแสดงถึงการทำกิน ธุรกิจง่อนแง่น
30. บ้านที่เก่าถ้าจะเข้าไปอยู่ใหม่ควรทาสีให้ใหม่ กลอนประตูควรจะเปลี่ยนใหม่ จะนำโชคลาภมาให้
31. บ้านถ้าอยู่ใกล้สุสานไม่ดี , บ้านที่มีสะพานพุ่งแทงเข้ามาให้แก้เคล็ดโดยปลูกต้นไม้ไผ่บังสายตา
32. บ้านที่มีบ่อน้ำที่มีมุมแหลมพุ่งตรงสู่หน้าบ้านไม่เป็นมงคล ควรแก้เคล็ดโดยปลูกต้นไม้บังบ่อตรงมุมแหลม จะพบความสุข , บ้านที่มีหลังคาเป็นรูปโค้งไม่ดี
33. บ้านที่มีบ่อน้ำอยู่หลังให้ระวังเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ เช่น โรคท้อง
34. บ้านที่เพดานเฉียง ไม่ดี, บ้านมีคาน ไม่ดี, บ้านที่มีคานไม่เสมอกัน ไม่ดี, บ้านสร้างคล้ายรูปตัวยู ไม่ดี
35. บ้านที่มีถนนโค้งออก อยู่แล้วไม่เจริญ , บ้านที่มีถนนล้อมรอบทั้ง 4 ด้านไม่เป็นมงคล , บ้านที่มีทางโค้งออกอยู่ไปจะทำให้ยากจน, บ้านที่อยู่ใกล้สี่แยกให้ตั้งประตูใหญ่ให้ถูกรหัสราศีของเจ้าของบ้าน และอีกส่วนด้านให้ปลูกต้นไม้แทนภูเขาเพื่อแก้เคล็ด
36. บ้านที่อยู่ใกล้สี่แยกระวังขโมยขึ้นบ้านบ่อย และถ้าถนนตัดกับทิศตะวันตกเฉียงใต้ คนในบ้านมักจะมั่วกาม
37. บ้านมีสองบันได ไม่ดี , บ้านรูปทรงตัว H ถือว่าบ้านเว้าแหว่ง จะเสียทรัพย์ เสียชื่อเสียง
38. บ้านเว้าแหว่ง รูปทรงกากบาท หมายถึงป่วย ความตาม ไม่ดี
39. บ้านที่มีรูปทรงแปลก ๆ ผิดปกติ เฉียงเอียงเว้าแหว่งล้วนไม่ดี, บ้านมีคนพักอาศัยมากจะทำให้คนในบ้านอบอุ่น
40. บ้านที่มีลานหน้าบ้านกว้าง เป็นฮวงจุ้ยที่ดี, บ้านถูกทางแทง ไม่ดี ต้องแก้ไข
41. บ้านเป็นรูปสามเหลี่ยม เรียกว่าถังขยะ ธุรกิจเจ๊ง เป็นมะเร็ง อัมพาต
42. บ้านแตกร้าว ในบ้านจะเกิดปากเสียง ไม่ดี, บ้านตรงข้ามโบสถ์ จะมีแต่ความเสื่อมเสีย มีเรื่องชู้สาว
43. บ้านรูปแปดเหลี่ยมดี บ้านที่มีเหลี่ยมตึก หน้าจั่วแทงด้านหน้า หลัง ซ้าย ขวา ไม่ดี
44. บ้านที่อยู่ใกล้เสาไฟแรงสูง อันตรายเวลาฝนตก, บ้านอยู่ตรงข้ามโรงไฟฟ้าไม่ดี ต้องแก้ไข
45. บ้านติดโรงพยาบาลไม่ดี การค้าสะดุด การเงินเป็นหนี้ สุขภาพไม่ดี
46. บ้านร้างที่อยู่ใกล้บ้านใหม่ จะทำให้บ้านใหม่ไม่ดีไปด้วย, หน้าบ้านมีกองขยะ หรือสิ่งรก ๆ ไม่ดี
47. บ้านที่อยู่ระหว่างช่องว่างของตึกสูง เรียกว่าลมพิฆาต ไม่ดี วิบัติรุนแรง
48. บ้านมีต้นไม้เอียงเบนห่างออก ไม่ดี ขาดผู้สนับสนุน, บ้านถูกทางน้ำ หรือบันไดแทง ไม่ดี
49. หน้าบ้านที่มีบ้านมุมบ้านแหลม หันมาแทงบ้านของตัวเอง, หน้าบ้านมีบ่อรูปสามเหลี่ยม ไม่ดี
50. หน้าบ้านมีบ่อน้ำสองบ่อ เรียกว่าบ่อน้ำตา ไม่ดี, หน้าบ้านห้ามมีศาลเจ้า โบสถ์ วัด
51. หน้าบ้านทางด้านซ้ายมือมีสระน้ำอยู่มุมมังกรเขียว ผู้อยู่อาศัยจะเจริญรุ่งเรือง
52. หน้าบ้านถ้ามีต้นไม่ใหญ่ตายยืนควรจะโค่นตัดทิ้งเลย มิฉะนั้นจะพบความยากจน
53. หน้าบ้านมีรูปเหมือนรูปปืนที่ยิงใส่หน้าบ้านตลอด อยู่ใกล้ไปจะยากจน , หน้าบ้านมีท่อระบายน้ำหรือแทงค์น้ำอยู่ไม่ดี
54. หน้าบ้านมีเสาเครื่องหมายจราจรอยู่ไม่ดี,หน้าบ้านมีทางเข้าออกของรถ ของบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ตรงกัน แทงกันเองไม่ดี
55. หน้าบ้านมีต้นไม้ใหญ่เหมือนมีมีดมาฟันบ้าน ไม่ดี, ประตูใหญ่อย่าสร้างประตูเล็กไว้ 2 ข้าง แต่ให้สร้างข้างเดียวคือ หันหน้าอกสร้างตรงซ้ายมือ (มุมมังกรเขียว) , ประตูตรงกันไม่เป็นมงคล,ประตู เสา และฝาบ้าน ต้องเลือกไม้ที่ไม่มีตามาก ๆ
56. ประตูหน้าบ้านห้ามตรงกับประตูห้องน้ำไม่ดี จะเกิดโรคฝีหรือโรคมะเร็งได้, ประตูบ้านที่มีซุ้มสูงกว่าหลังค่าไม่เป็นมงคล ให้แก้ไข จะได้พบแต่ความสุข, ประตูที่ทำซุ้มแบบซุ้มประตูของศาลเจ้าหรือมูลนิธิ บ้านคนธรรมดาห้ามสร้างจะไม่เป็นสิริมงคล, ประตูบ้านไม่ควรจะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงกลางประตู
57. ประตูหน้าบ้านมีสะพานพุ่งเข้าหน้าบ้านไม่ดี, ประตูห้องนอนตรงกับเตียงนอนไม่ดี, ประตูใหญ่ตรงประตูห้องน้ำไม่ดีจะทำให้เงินเข้าบ้านไม่ดี สุขภาพไม่ดี, ประตูห้องนอนตรงกับประตูห้องน้ำไม่ดี จะเกิดโรคภัย ธุรกิจสะดุด
58. ประตูใหญ่ตรงกับประตูห้องนอน จะเกิบเงินไม่อยู่ มีปากเสียง ไม่ดี, ประตูรั้วบ้านฝั่งตรงข้ามใหญ่กว่าบ้านเราไม่ดี
59. ประตูตรงกันหลายบาน ตรงกับเตา ทำให้ร้อนเงิน มีปากเสียง ไม่ดี, ประตูตรงห้องนอนห้ามตรงกับบันได ไม่ดี
60. ประตูห้องส้วมตรงกับเตียงนอนไม่ดี, ประตูห้องนอนตรงกับประตูครัว ทำให้เกิดปากเสียงเงินเก็บไม่อยู่
61. ประตูด้านซ้ายควรใหญ่กว่าด้านขวา, ประตูรั้วสูงกว่ากำแพงไม่ดี
62. บันไดตรงกับประตูห้องนอน ไม่ดี, บันไดตรงประตู ไม่ดี, บันไดตรงห้องน้ำ ไม่ดี, บันไดอยู่กลางบ้านตรงประตูเข้าออก ไม่ดี
63. ห้องนอนติดกับเตา หรือห้องครัวไม่ดี, ห้องนอนของคนชราควรอยู่ชั้นล่าง เพราะอายุมากกระดูกไขข้อเริ่มเสื่อม
64. ห้องนอนควรที่จะเก็บแต่เสื้อผ้าใหม่และข้องใหม่ จะเป็นมงคล, ห้องนอนควรอยู่ให้ถูกกับรหัสราศีของตัวเอง
65. ห้องนอน ผ้าห่ม หมอน ควรที่จะแห้ง สะอาดอยู่เสมอ, ห้องนอนอยู่ใต้ห้องน้ำจะเจ็บป่วย
66. ในห้องนอนเจ้าบ้านควรอยู่ทิศในรหัสราศีของตัวเองถึงจะเป็นมงคล
67. ห้องนอนประตูห้องนอนไม่ควรตรงกับประตูหน้าบ้าน, ห้องนอน เตียงนอนไม่ควรจะตรงกับประตูห้องหนอและไม่ควรเป็นห้องเก็บของ จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ
68. กระจกอย่าวางไว้ที่หัวนอน เพราะจะทำให้เสียสุขภาพ
69. เตียงนอนอยู่บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ดี ไม่เป็นมงคล
70. ใต้เตียงนอนไม่เหมาะที่จะเก็บถ้วยชามที่ร้าว จะทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพ
71. เตียงนอนตรงกับประตู ไม่ดี, เตียงนอนห้ามตั้งอยู่บนเตาไฟ จะทำให้คนนอนสุขภาพไม่ดี
72. เตียงนอนห้ามอยู่ใต้บันได เพราะจะมีคนขึ้นลงอยู่ประจำ, การตั้งเตียงเป็นมุมทะแยง ไม่ดี จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ
73. ด้านหัวนอนของเตียงและปลายเท้าห้ามตั้งกระจก, ห้ามนอนเอาเท้าหันไปสู่ประตู
74. หิ้งลอย ตู้ลอย ไม่ควรอยู่บนหัวนอน จะทำให้เครียด เกิดโรคทางสมอง
75. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรตั้งตรงบันได หรือใต้บันได ไม่เป็นมงคล, การตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ห้ามเอาหลังอิงห้องน้ำ ไม่เป็นมงคล
76. ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรตั้งในห้องนอนถ้าเป็นคนโสดไม่เป็นไร ถ้ามีคู่แล้วห้าม
77. สิ่งศักดิ์สิทธ์ตั้งอยู่บนห้องน้ำ เป็นสิ่งไม่สมควร ควรแก้ไข
78. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ห้ามตั้งอยู่ใต้คาน รวมทั้งคนด้วยเช่นกันก็ห้ามอยู่ใต้คาน
79. ห้องพระไม่ควรรวมกับห้องนอน ถ้าที่คับแคบจำเป็นต้องรวมให้กั้นฉากเป็นสัดส่วน ห้องนอนอย่าอยู่หน้าห้องรับแขก
80. บ่อน้ำไม่ควรเป็นที่ทิ้งขยะ ไม่ดี, บ่อน้ำอยู่หลังบ้าน หรือหลังเตียงนอน ไม่ดี
81. คานอยู่หน้าประตูไม่ดีจะส่งพลังกดทับทำให้เงินหรือพลังไม่คล่อง คานต่ำ เพดานต่ำ จะทำให้ชี่ (เงิน) เข้าบ้านไม่สะดวก
82. คานห้ามอยู่บนหัวนอน จะเป็นมะเร็งในสมอง เส้นโลหิตในสมองแตก, คานทับเตาไฟ ทำให้เงินขาดมือ
83. ห้องน้ำอยู่บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เป็นมงคล, ห้องน้ำอยู่บนประตูใหญ่ไม่ดี ทำให้เงินไม่ไหลเข้า, ห้องน้ำอยู่เหนือเตาไฟ ไม่ดี
84. ด้านหลังของเตียงเป็นห้องน้ำไม่ดี
85. ห้องน้ำกลางบ้านไม่ดี, เครื่องซักผ้าตรงกับเตาไม่ดี, ห้องครัวถ้ามีขื่อพาดอยู่ ไม่ดีจะเจ็บป่วย ยากจน
86. ห้องครัวห้ามอยู่ติดกับห้องนอน ถ้าจำเป็นจะตั้องกั้นผนังห้องครัวและห้องนอนอย่าให่มีอากาศเข้าถึงกันได้
87. เตาตรงกับประตู เท้ากับชักนำเพื่อนเข้ามากิน แล้วก็จากไป แต่ตัวเราจะจนลง ไม่ดี
88. เตาแก๊สห้ามตั้งติดกับก๊อกน้ำหรืออ่างล้างชาม ไม่ดี
89. การตั้งเตาควรหันที่ปิดเปิดให้ถูกโฉลกและเป็นมงคลกับเจ้าบ้าน
90. หัวเตาแก๊สควรมี 3, 5, 7 เตาดีที่สุด, ไม่ควรสร้างเตาไฟเล็งไปที่ประตู
91. ไม่ควรวางเตาไว้บนท่อระบายน้ำหรือท่อ น้ำประปา, ด้านหลังเตาแก๊สห้ามมีบ่อน้ำ
92. ด้านหลังเตาอย่าให้ห่างผนังมากเกินไป
93. ครัวเตาไฟไม่ควรจัดไว้หน้าบ้าน จะไม่มีทรัพย์สินเก็บจะมีคนในบ้านตายทุก 3 ปี
94. ตัวเตาในบ้านอย่าให้คนนอกบ้านเห็นจะไม่เหลือเงินเก็บ, การตั้งเตาอย่าใกล้สระน้ำ หรือน้ำประปา
95. หน้าเตาไฟหันไปสู่ทิศตะวันออก หรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ดี เป็นมงคล แต่ถ้าจะให้ดีต้องถูกรหัสราศีทิศของเจ้าของบ้านด้วย
96. ไม่ควรสร้างเตาในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน แต่ควรหันหัวเตาให้ถูกโฉลกรหัสราศีของเจ้าของบ้าน
97. ห้องนั่งเล่นโซฟารูปสามเหลี่ยมไม่ดี, ข้างบ้านมีเครื่องระบายความร้อนพุ่งมาหาบ้านอีกฝ่ายหนึ่งไม่ดี
98. ต้นไม้ชิดบ้านเกินไปไม่ดี แต่ถ้าห่างประมาณสิบเมตรดี จะมีผู้สนับสนุน, หลังบ้านมีบ่อน้ำตรงกับเตา ไม่ดี
99. ห้องนั่งเล่นเป็นหลุมเป็นแอ่งกระทะ ไม่ดี, ท่อน้ำอยู่ใต้เตาไม่ดี เพราะน้ำกับไฟเป็นศัตรูกัน
100. การตั้งโต๊ะทำงาน ควรตั้งในมุมทรัพย์ จะร่ำรวยมาก, ถ้าด้านซ้ายมือของบ้านมีสะพานให้แก้เคล็ด
101. ถ้าสุสานอยู่ทางทิศตะวีนออกของบ้านให้แก้เคล็ด, หลังบ้านอย่าให้มีรอยแตกร้าว จะเป็นอัปมงคล
104. หลังคา เพดานบ้าน อย่าให้รั่ว ถ้ารั่วให้รีบซ่อมเสีย ถ้าไม่แก้ไขเงินทองจะเก็บไม่อยู่ยากจน
105. ขื่อบ้านถ้าร้าว หักควรรีบแก้ไข เพราะไม่เช่นนั้นในบ้าน จะเกิดขาดผู้ช่วยสนับสนุนเงิน ทองร่อยหรอลง เจ็บไข้ได้ป่วย
106. ในบ้านมีหญิงมีครรภ์ ไม่ควรต่อเติมบ้าน หรือย้ายเตียง ถ้าฝืนทำแล้วหญิงในบ้านอาจแท้งบุตรได้ หรือบุตรคลอดออกมาไม่สมประกอบ
107. พื้นที่นอกบ้านควรจะต่ำกว่าพื้นในบ้าน จึงเป็นมงคล, ห้ามทำราวตากผ้าผ่านเตาไฟ จะเป็นอัปมงคล
108. โรงรถควรจะมีความกว้างเสมอกับบ้านอย่าให้ยื่นเกินออกมา
109. ผู้ที่เกิดราศีทิศตะวันออก ธาตุไม้ ไม่ควรหันหน้าบ้านไปสู่ราศีตะวันตก ธาตุทอง เพราะเป็นศัตรูธาตุ
110. ผู้ที่เกิดราศีทิศเหนือ ธาตุน้ำ ห้ามหันเข้าสู่ทิศใต้ ธาตุไฟ เพราะเป็นสัตรูธาตุ
111. ผู้ที่เกิดราสีทิศตะวันตก ห้ามมีหน้าบ้านหันสู่ทิศตะวันออก เพราะเป็นคู่ศัตรูกัน
112. ผู้ที่เกิดราศีทิศใต้ ธาตุไฟ ห้ามมีหน้าบ้านหันสู่ทิศเหนือ เพราะเป็นทิศคู่ศัตรูกัน
113. จำนวนห้องที่กั้นในบ้าน ควรกั้นเป็นเลขที่เป็นมงคล คือ 1, 2, 5, 6, 7 ห้องดีเป็นมงคล
114. ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ไม่ควรสร้างห้องนั่งเล่นจะไม่เป็นมงคล, ห้องนั่งเล่น หรือรับแขกตั้งอยู่กลางบ้านถือว่าเป็นมงคล
115. การสร้างบันไดตรงดิ่งลงมาที่หน้าประตูอยู่กลางบ้านถือว่าเป็นมงคล
116. ตรงกลางบ้านห้ามทำเป็นห้องน้ำ หรือห้องส้วม ทำเป็นห้องนอนดีที่สุด
117. หน้าต่างมีได้ทุกทิศดีที่สุด แต่หน้าต่างและประตู ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ตรงกัน
118. วงกบ เสาบ้าน ไม่ควรคดงอ จะทำให้เกิดเรื่องอัปมงคล, หน้าต่างหรือประตูควรจะสร้างกันสาดถึง จุเจริญรุ่งเรือง
119. กำแพงบ้านอย่าสูงเกินไป (เกิน 2 เมตร) หรือต่ำเกินไป (1.40 เมตร)
120. ตำแหน่งกำแพงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนืออย่าให้ชำรุดจะมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล
121. สร้างบ้านไม่ควรสร้างกำแพงหรือภูเขาก่อนจะทำให้ยากจน หรือถูกคุมขัง
122. กำแพงบ้านไม่ควรเจาะเป็นหน้าต่าง จะไม่เป็นมงคล, กำแพงบ้านสร้างเป็นรูปโค้งดีกว่าสร้างกำแพงเป็นรูปสี่เหลี่ยม
123. ไม่ควรสร้างกำแพงบ้านให้ชิดบ้านเกินไป, ตัวที่ดิน หรือตัวบ้าน ข้างหน้าแคบข้างหลังกว้างไม่เป็นมงคล
124. ที่ดินที่เคยมีต้นไม้ใหญ่อยู่หนาแน่น ควรจุขุดรากถอนโคนให้หมดเสียก่อนค่อยปลูกบ้าน
125.ทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสะพานจะดีแต่แรก จะแย่ในภายหลัง
126. ร้านค้าหรือบ้านไม่ควรนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คนภายนอกเห็น เพราะจะมีคนแกล้งเอาของสกปรกมาทำลายสิ่งศักดิ์สิทธ์
127. ร้านค้าใดถ้าหากมีสะพานพุ่งตำเข้ามาหา จะเป็นทิศใดก็ตาม ควรประกอบอาชีพประเภท ขายอาวุธ ของมีคม ขายเนื้อ ซึ่งต้องใช้ของมีคมประจำ ถึงจะเจริญรุ่งเรือง
128. ร้านค้าใดก็ตามควรจะตั้งหน้าบ้านให้ถูกรหัสราศีกับเจ้าของบ้านและตั้งเตาให้ถูกรหัสราศีของเจ้าของบ้านด้วย

วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การถอนเงินออกจาก paypal

ในการจะถอนเงินออกจาก Paypal ได้นั้น เราจะต้องมีเงินอยู่ในบัญชี ขั้นต่ำ 10 $ นะครับ จึงจะถอนได้ โดยวิธีการดังนี้ครับ

การ กำหนดธนาคาร
เราจะต้อง กำหนด ธนาคารของเราเพื่อ ให้ paypal โอนเงินให้ครับ

จากนั้นคลิกที่ถอนเงินครับจะได้ ดังรูปนี้ครับ



จากนั้นก็ให้ใส่ ข้อมูล ของธนาคารเราครับ (ต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษนะครับ)
แค่นี้ Paypal ก็รู้แล้วละครับว่า จะโอนเงินให้เรา อย่างไร
วิธีถอนเงิน
ให้ทำตามวิธีนี้เลยครับ
1 เมื่อเราอยู่หน้าหลัก ใหคลิกที่เมนู ถอนเงิน
2 จากนั้นก็กด ถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของคุณ
3 จะได้ดังรูปนี้ครับ

ใส่ จำนวนเงิน แล้วกด ดำเนินการต่อเลยครับ รอประมาณ 3-5 วัน เงินก็โอนเข้าบัญชีธนาคารให้เราแล้วครับ
ทาง paypal จะคำนวน เงินให้เรา เป็นยอด บาทไทยให้เสร็จสรร เลยครับ

วิธีผูกบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ก กับ PayPal

1.Login เข้าไปในบัญชี PayPal ของคุณ ดังรูปข้างล่าง


2.วางเม้าส์ที่โปรไฟล์ แล้วคลิกที่ “เพิ่ม/แก้ไขบัญชีธนาคาร” คลิก “เพิ่ม”

3.ในช่อง

1. เพิ่มบัญชีธนาคารกรุงเทพใน PayPal โดยเลือกประเทศเป็น United States (สหรัฐอเมริกา) และใส่ข้อมูลดังตัวอย่างต่อไปนี้
Bank Name: Bangkok Bank (ไม่ต้องระบุสาขา)
Account Type: S/A หรือ F/A (ระบุประเภทบัญชี) (ใส่่เป็น บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์)
Routing Number: 026008691
Account Number: xxxxxxxxxx (ระบุเลขที่บัญชีธนาคาร 10 หลัก)
Re-enter Account Number: xxxxxxxxxx (ระบุเลขที่บัญชีธนาคาร 10 หลัก อีกครั้ง)


4.จะพบหน้าที่แจ้งคุณว่า “คุณเพิ่มบัญชีธนาคารในประเทศต่อไปนี้แล้ว:สหรัฐอเมริกา!”
5.จะมีอีเมลจาก PayPal แจ้งไปยังอีเมลที่คุณลงทะเบียนกับ PayPal ว่าได้เพิ่มบัญชีธนาคารในประเทศสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นอีกประมาณ 2-3 วัน ทาง PayPal จะทำการโอนเงิน (จำนวนเล็กน้อยถือเป็นค่าขนม) มาให้แก่คุณในบัญชีธนาคารกรุงเทพ 2 จำนวน ให้คุณนำตัวเลขที่ได้รับนี้มาลงทะเบียนกับ PayPal อีกครั้ง (ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในข้อต่อไป)
***ขั้นตอนที่จะทำต่อไปนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากที่สุด ในการผูกบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ก กับ PayPal ถ้าไม่ทำอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดถึงขนาด PayPal แขวนบัญชีหรือล็อคบัญชีของคุณเลยก็เป็นได้ และยังมีผลกระทบถึง คู่ค้าที่คุณ จะจ่ายเงินให้แก่เขาด้วยเพราะ คุณจะถูกมองว่าแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จและจะหลอกลวงเค้า ถึงขนาดแขวนบัญชีของคุณเช่นกัน ดังนั้นเราจึงแนะนำให้คุณทำทันที
6.Login เข้าบัญชี PayPal ของคุณคลิกที่ “โปรไฟล์” จะเข้าสู่หน้า “สรุปโปรไฟล์” แล้วคลิกที่ “การชำระเงินแบบประจำโดยอัตโนมัติ”


7.คลิกที่ “แก้ไขตัวเลือกแหล่งเงิน”

8.ให้ติ๊กเอาเครื่องหมายถูกในช่องสี่เหลี่ยมหน้า Bangkok Bank ออก “ต้องเอาออกนะครับ” แล้วให้คลิกที่ “บันทึก”


***ขั้นตอนต่อไปนี้ขอให้ตรวจสอบทุกครั้งที่ท่านจะทำการชำระเงิน
8.1 เพื่อป้องกันความผิดพลาดในขั้นตอนการจ่ายเงินให้กับเจ้าของสินค้าที่เราจะซื้อ เมื่อคุณตกลงที่จะจ่ายเงินผ่าน PayPal และได้กดจ่ายเงินจากหน้าเว็บไซต์ของเจ้าของสินค้า จะนำคุณมายังหน้า login เข้าบัญชี PayPal ของคุณก่อนให้คุณ login เข้าไปใจบัญชี PayPal ตามปกติ แล้วคุณจะพบกับหน้าชำระราคาสินค้า ให้คุณตรวจดูในช่อง Payment Method ว่าเป็นการจ่ายเงินจากบัญชีอะไร ถ้าเป็นบัญชีของ ธนาคารกรุงเทพให้คุณทำการเปลี่ยนโดยคลิกที่ Change
8.2 ให้คุณเอาเครื่องหมายในวงกลมหน้า instant transfer ออก แล้วไปติ๊กเลือกที่ Credit/debit Card บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตที่คุณผูกบัญชีไว้กับทาง PayPal (วิธีผูกบัญชีบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตกับบัญชี PayPal คลิกที่นี่) แล้วคลิกที่ ดำเนินการต่อ หรือ continue
8.3 คุณก็จะกลับมาที่หน้าชำระเงิน ในช่อง Payment Method จะเปลี่ยนเป็นการชำระเงินผ่านบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต ที่คุณได้ทำการผูกบัญชีกับ PayPal ไว้ซึ่งเป็นบัตรที่คุณต้องการให้ PayPal หักเงินนั่นเอง เมื่อตรวจสอบว่าไม่ใช่หักจากบัญชีธนาคารกรุงเทพแล้วก็ให้กดที่ Pay Now หรือ ชำระเงิน ได้ทันที (วิธีผูกบัญชีบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตกับบัญชี PayPal คลิกที่นี่)
เหตุผล:เพราะโดยหลักแล้วเมื่อเราผูกบัญชีธนาคารในสหรัฐอเมริกา ทาง PayPal จะทำการหักเงินที่เราจะจ่ายจากบัญชีธนาคารในสหรัฐอเมริกาก่อนบัญชีบัตรเครดิตเสมอ แต่บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขา นิวยอร์ก ของเรานั้น เราไม่มีบัญชีที่เปิดไว้จริงๆ เราเพียงแต่ใช้เป็นทางผ่านในการรับเงินเท่านั้น ดังนั้น ถ้าทาง PayPal จะหักเงินเราจากบัญชีที่ สาขา นิวยอร์ก ทางนั้นก็จะไม่มีเงินให้ ส่งผลให้ทาง PayPal ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเราแจ้งบัญชีอันเป็นเท็จ จึงทำการ แขวนหรือล็อกบัญชีของเรา ทำให้เราไม่สามารถจะส่งเงินไปให้คู่ค้าของเราตามที่เราตกลงกับเค้าได้ ส่งผลเป็นลูกโซ่ไปถึงคู่ค้าของเราก็จะเห็นว่าเราเป็นคนไม่มีเครดิตไม่รักษาคำพูด และถึงขนาดล็อคบัญชีของเราที่มีกับเค้าก็ได้
9.หลังจากที่คุณได้รับอีเมลจาก PayPal ในข้อ 5 รออีกประมาณ 2-3 วัน ทาง PayPal จะทำการโอนเงินเข้ามาที่บัญชีธนาคารกรุงเทพที่คุณได้ลงทะเบียนไว้กับ PayPal โดยจะโอนเงินเข้ามา 2 จำนวน ให้คุณเข้าไปที่ iBangking ของธนาคารกรุงเทพของคุณ (หรือเอาสมุดบัญชีของคุณไปปรับที่ธนาคาร หรือจะโทรถาทที่ 1333 เลยก็ได้) แล้วเข้าไปเช็คดูรายละเอียดจะพบยอดเงิน 2 ยอด จำนวนไม่มากเป็นเงินไทย รายการจะแจ้งว่า “โอนจากต่างประเทศเข้ามาทางโทรเลข” เมื่อคุณทราบแล้วว่ามีเงินโอนเข้ามาในบัญชีของคุณ ให้คุณโทรไปที่เบอร์ 1333 สอบถามพนักงานว่า จำนวนเงินที่โอน เข้ามาเป็นดอลลาร์เป็นตัวเลขอะไร? ทางพนักงานก็จะบอกรายละเอียดแก่คุณ เช่น เป็นเงินไทยจำนวน 5.08 กับ 3.39 บาท พนักงานเค้าก็อาจจะบอกว่าเป็นเงินดอลลาร์ที่ 0.15 กับ 0.10 ดอลลาร์ ก็ให้เราจดตัวเลขทั้ง 2 จำนวนไว้
10.login เข้าบัญชี PayPal ของคุณคลิกที่ “ยืนยันบัญชีธนาคาร”
11.นำจำนวนตัวเลขหลังจุดทศนิยม เช่น 0.15 ก็คือตัวเลข 15 กับ 0.10 ก็คือตัวเลข 10 มาใส่ในช่อง “จำนวนเงินฝาก” ทั้ง 2 ช่อง (ห้ามใส่ผิดเกิน 3 ครั้ง มิฉะนั้น จะต้องดำเนินกระบวนการใหม่ทั้งหมด) ใส่เสร็จแล้วให้คลิก “ส่ง”
12.เมื่อทำครบขั้นตอนทั้ง 11 ข้อแล้ว (ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด) ก็จะมีหน้าแจ้งยืนยันกับคุณขึ้นมาว่า “สหรัฐอเมริกาบัญชีธนาคารของคุณได้รับการยืนยันแล้ว” ถ้าเห็นหน้านี้แล้วก็ “ไชโย” ได้เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการผูกบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขา นิวยอร์ก กับบัญชี PayPalแล้ว ต่อไปเวลาคุณถอนเงินจาก PayPal ทาง PayPal ก็จะโอนเงินผ่านบัญชีคุณที่ธนาคารกรุงเทพ สาขา นิวยอร์ก แล้วทางสาขานิวยอร์ก ก็จะโอนเข้ามาที่บัญชีธนาคารกรุงเทพของคุณในประเทศไทยอีกที

การสมัคร paypal

วิธีสมัคร PayPal ของธนาคาร กรุงเทพ กสิกร ไทยพาณิชย์

ก่อนจะสมัครเรามาทำความรู้จักกับ Paypal กันก่อน

PayPal คืออะไร

Paypal เป็นธนาคารออนไลน์ ที่มีระบบชำระเงินออนไลน์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือทั่วโลก มีคนนิยมใช้ที่สุดในโลก และ Paypal ได้เป็นที่ยอมรับในตลาดสากลว่าเป็นระบบที่มี ลูกค้าในการใช้งานมากที่สุดในโลกอีกด้วย ถ้าเพื่อนๆ ต้องการซื้อหรือขายสินค้าออนไลน์กับคนทั่วโลก จะต้องสมัครเป็นสมาชิกของ Paypal
ที่เป็นเช่นนี้เพราะ หากเราใช้ธนาคารแบบธรรมดา ก็จะซื้อหรือขายสินค้าได้เฉพาะในเมืองไทย ดังนั้น Paypal จึงทำหน้าที่เปรียบเสมือนตัวกลางในการทำธุรกรรมทางการเงินหรือโอนเงินออนไลน์สากลนั่นเอง
สมัคร Paypal

สิ่งที่ต้องใช้ในการสมัคร PayPal ใน 2 ขั้นตอนหลักๆ ของการสมัคร มีดังนี้

ขั้นตอนที่ 1.ในการสมัคร Paypal นั้นต้องใช้

1.1 อีเมลล์ที่ใช้งานได้จริง ของ Hotmail, Gmail, Yahoo หรือที่อื่นอะไรก็ได้
1.2 ชื่อ-นามสกุล ตรงตามบัญชีธนาคาร และ ที่อยู่จริงตามบัตรประชาชน
1.3 บัตรเดบิด ( เช่น บัตร B1st ของธนาคารกรุงเทพ) หรือบัตรเครดิตของธนาคารอื่นๆ

ขั้นตอนที่ 2. ในการเชื่อมโยงหรือผูกบัตร หรือบัญชี กับ Paypal นั้นต้องใช้

2.1 บัตรเดบิต/บัตรเครดิต หรือ บัญชีธนาคาร อย่างใดอย่างหนึ่ง แนะนำว่าใช้บัตร บัตรเดบิต เช่น Be1st ของธนาคารกรุงเทพเพราะทำง่ายสะดวกและปลอดภัยที่สุด ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เปิดบัญญีใหม่เพียง 500 บาทเอง
2.2 เงินในบัญชีไม่เกิน 100 บาท โดย paypal จะหักเงินในบัญชีเราเพื่อต้องการทราบว่าสามารถตัดเงินจากบัญชีหรือบัตรเราได้จริง แล้วทาง Paypal จะคืนเงินให้ภายหลังใน Paypal เป็นโบนัส
    ในขั้นตอนที่ 2. นี้ ทำเพื่อยืนยันตัวตนว่าบัญชีนั้นมีอยู่และงานได้จริง ถ้าไม่ทำขั้นตอนนี้ก็ใช้สามารถบัญชีได้ โดยสามารถรับเงินที่โอนเข้ามาได้ แต่ไม่สามารถถอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในไทยได้ และอาจจะมีปัญหาอื่นๆตามมาทีหลังอีก ทางที่ดีก่อนทำธุรกรรมทางการเงินกับ Paypal ควรยืนยันตัวตนก่อน
ถ้าใครยังไม่มีบัตร BE1ST ดูวิธีทำบัตรได้ที่ http://www.blogoho.com/makemoney/วิธีสมัครบัตร-be1st-ธนาคารกร/

ขั้นตอนการ สมัคร PayPal โดยใช้ธนาคาร กรุงเทพ กสิกร ไทยพาณิชย์

1. สมัคร PayPal ประเทศไทย ก่อนเข้าไปที่ www.paypal.com/th
สมัคร PayPal
2.ให้ทำตามรูป เลยครับ เลือกแบบ Premier จะดีที่สุด ไม่ต้องอัพเกรดอีกในภายหลัง
วิธีสมัคร PayPal

4.กรอกรายละเอียด ตามรูปครับ (กรอกเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ ) จดรหัสผ่านไว้ด้วยกันลืม ตามรูปข้างล่าง
สมัคร PayPal

สมัคร PayPal
    ตามรูปข้างบน สำหรับคนที่มีบัตรแล้วให้ใส่ข้อมูลได้เลย ตรงช่องกรอกข้อมูลบัตร วันที่หมดอายุที่บัตรจะเขียนว่า exp ก็ดูที่บัตร เช่น exp 10/18 หมายถึง เดือน 10 ปี 2018 ส่วน cvv ก็ดูหลังบัตร เลข 3 ตัว

เมื่อเราทำการสมัคร เรียบร้อยแล้ว เราจะต้องทำการยืนยัน Email ให้เข้าไปเช็ค
Email ที่เราใช้ สมัครกับ Paypal ใน Email จะมีเมลล์ที่เพพาวส่งมา สองฉบับ แต่ให้คลิกเข้าไป ใน Email ที่ชื่อว่า เปิดใช้บัญชี PayPal ของคุณ แล้วคลิกยืนยันที่คำว่า “คลิกเพื่อเปิดบัญชีของคุณ”
สมัคร Paypal

จากนั้นเราก็ใส่รหัสผ่าน ให้เหมือนกับตอนที่สมัคร

สมัคร Paypal
จากนั้น ก็ใส่คำถามเพื่อความปลอดภัยครับ(กันไว้ในกรณีที่เราลืมรหัสผ่าน)
สมัคร Paypal
ขั้นตอนต่อไปเป็นการยืนยันบัตร หรือบัญชี สำหรับผู้ที่มีบัตรหรือบัญชีธนาคาร ของ ธนาคาร กรุงเทพ กสิกร ไทยพาณิชย์ 
เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการสมัคร Paypal ครับ
เมื่อเราล็อกอินเข้าระบบ ของ PayPal แล้วมองจากรูปเราควรจะทำการยืนยันบัตรของเราครับโดยวิธีทำ ทำตามรูปเลยครับ


จากนั้นทำตามรูปเลยครับ

เมื่อเรากดแล้วทาง paypal จะทำการหักเงิน 1.95$ หรือประมาณ 60-70 บาทนะครับ
จาก นั้นเราก็เข้าไปติดต่อกับทาง ทางธนาคารของเรา เพื่อไปขอหมายเลข paypal 4 ตัวนะครับ

หรือโทร ไปที่ 1333 ครับ
กด 1 เพื่อภาษาไทย
กด 0 ติดต่อเจ้าหน้าที่
กด 8 สอบถามเรื่องทั่วไป
จากนั้นกรอกรหัสบัตร Be1st 12 หลักครับ
จากนั้นกรอกรหัส ATM 4 หลัก
ระบบจะโอนสายไปให้เจ้าหน้าที่ ให้บอกไปว่า “สอบถามรหัส Paypal” เจ้าหน้าที่จะรู้ทันที แต่ “อาจจะ” มีการสอบถามข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนเล็กน้อยนะครับ

พอเราได้รหัส 2 จำนวนจากการโทรไปถามธนาคาร เราก็เอารหัสที่ได้ เพื่อมา ยืนยันบัตรต่อใน โดยกรอกรูปด้านล่างครับ
Neobux

ถ้าใครสมัคร ไอแบงค์กิ้งของธนาคารกรุงเทพไว้ สามารถดูยอดเงิน 2 จำนวนเป็นรหัส 4 ตัวที่ Paypal ส่งมาให้ได้โดย ให้เราก็ login เข้าที่ไอแบงค์กิ้ง เพื่อดูเลขรหัส 4 ตัวเอาไปทำการยืนยันตัวตน พอเข้าไปดูก็จะเห็นว่าได้หักไปแล้ว ชึ่งตรงหน้าแสดงรายการรวมจะไม่เห็นเลขระหัส 4 ให้เรากดที่ หมายบัตรเคดิต ใต้หมายเลขบัญชีเราอะ จะเป็น xxxxxx1234 ประมาณนี้ กดเข้าไปเลยจะเจอ ให้เอาเลข 4 ตัวแรก จะเป็น xxxxpaypal เอาไปใส่ ก็เป็นเสร็จสิ้น
แล้ว paypal จะคืนเงินให้เรา 1.95$ ครับ เมื่อเรา ล็อกอินเข้าไปไน Paypal จะเหมือนรูปนี้ครับ

แค่ นี้เราก็มีบัญชี paypal แบบสมบูรณ์ครับ

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

การทำ amazon ในฐานะผู้ขาย(Amazon Seller Professional) ตอนที่2

add bank account

ช่องที่ 22 ถ้าเป็นบัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ค ก็เลือกเป็นสหรัฐได้เลยครับ
ช่องที่ 23 ถ้าเป็นบัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ค ใส่ตัวเลข 026008691 เท่านั้นนะครับ
ช่องที่ 24 กับ 25 ก็ใส่เลขบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาในไทย ที่เราจะใช้รับเงิน  ใส่หมายเลขบัญชีลงไปเขียนติดกันไม่ต้องเว้นไม่ต้องขีดนะครับ
ช่องที่ 26 ก็ชื่อ นามสกุล เจ้าของบัญชี เอาให้ตรงกับชื่อทั้งหมดนี่จะดีกว่า เพราะถ้าไม่ตรงนี่ ก็ไม่แน่ใจ    เหมือนกัน



การคิดค่าธรรมเนียม การรับเงินแบบ Direct Deposit ธนาคารกรุงเทพคิดค่าธรรมเนียม 2 รายการ ดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมโอนเงินจาก ธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ก มาไทย
- ยอดเงินโอน น้อยกว่า $50 ไม่คิดค่าธรรมเนียม
- ยอดเงินโอน $51-$100 คิดค่าธรรมเนียม $3
- ยอดเงินโอน $100.01-$2,000 คิดค่าธรรมเนียม $5
- ยอดเงินโอน $2,000.01-$50,000 คิดค่าธรรมเนียม $10
- ยอดเงินโอน $50,000.01 ขึ้นไป คิดค่าธรรมเนียม $20
2. ค่าธรรมเนียมการรับเงินโอนจากต่างประเทศ ของธนาคารกรุงเทพในประเทศไทย 200 บาท หรือ
0.25% ของมูลค่าเป็นเงินบาทแต่ไม่เกิน 500 บาท

โดยจะโอนเงินมาทุก ๆ 14 วัน

ถ้าหากไม่ได้ตั้งค่า Bank Account ตั้งแต่ตอนสมัคร เมนูการตั้งจะอยู่ที่ SETTINGS > ACCOUNT INFO
แล้วก็เข้าเมนูย่อย Deposit Method หน้าตาก็จะเหมือนกัน


หลังจาก Log in เข้าไปที่ Seller Central แล้วเราจะเจอเมนูต่าง ๆ อยู่ทางมุมซ้ายบน ของหน้าจอ




มาเริ่มจากเมนู ขวาสุดก่อนเลยครับ
Settings เมนูนี้จะใช้ในการตั้งค่าระบบต่าง ๆ ของร้าน ผมแนะนำให้ตั้งค่าเหล่านี้ก่อนขายนะครับ



 
- Account Info
สำหรับเอาไว้ตั้งค่าโดยรวม ๆ ทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับ account ที่เราใช้งานอยู่ โดยมากแล้วก็จะใส่ในตอนสมัครหมดแล้ว

- Notification Preferences
ตั้งอีเมล์ ว่าจะให้ส่งข้อความเตือนต่าง ๆ

- Login Settings
เปลี่ยนชื่อ อีเมล์ กับพาสเวิร์ดที่ใช้ Log in

- Gift Options
บริการเสริมจากร้านเรา ว่าจะส่งของขวัญ แทนคนซื้อได้หรือเปล่า

- Shipping Settings
การตั้งค่าส่ง บริการ และปลายทางที่จะส่ง (เดี๋ยวลงรายละเอียดอีกที)

- Tax Settings
ตั้งค่าเกี่ยวกับการคิดภาษีการค้า (คงไม่ต้องหรอกมั๊ง ถ้าคิดค่าของจะแพงกว่าเดิม)

- User Permissions
ตั้งให้ผู้ใช้งานคนอื่น (ถ้ามี) ว่าสามารถจัดการอะไรต่าง ๆ ในร้านได้ขนาดไหน เหมาะกับกรณีที่เราทำงานกันหลายคน แต่จะจำกัดว่าแต่ละคนทำอะไรกันได้บ้าง

- Your Info & Policies
การตั้งนโยบายต่าง ๆ ของทางร้านเพิ่มเติม เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าน่ะครับ
 
ผมจะลงรายละเอียดแค่ Account Info / Shipping Settings และ Your Info & Policies แค่นั้น เพราะอันอื่น จะเปลี่ยนหรือไม่ ก็แล้วแต่เจ้าของร้าน แต่ 3 อันนี้ ควรที่จะตั้งค่าให้พร้อมก่อน นำสินค้าไปขาย
 

 Account Info

เมื่อเราเข้ามาในเมนู Account Info หน้าตาจะประมาณนี้

 ว่ากันทีละอันเลยนะครับ
1. Selling Plan เป็นการเปลี่ยนว่าจะขายแบบ Individual (ขายเป็นชิ้น ชิ้นละ $0.99 แต่ไม่เกิน 40 ชิ้น)หรือ Professional (รายเดือน เดือนละ $39.99 ไม่จำกัดจำนวนชิ้น แต่ต้องไม่น้อยกว่า 40 ชิ้น) จะสามารถสลับไปมา ได้ แต่ต้องรอให้หมดรอบการจ่าย $39.99 หรือหมดรอบบิลก่อน เหมือนกับรอบการจ่ายค่ามือถือรายเดือนนั่นแหละ

ถ้าอยากเปลี่ยน ก็กดปุ่ม Switch Your Selling Plan ที่มุมขวาได้เลย
2. Seller Information



Display Name : ชื่อร้านที่จะแสดง
Customer Service E-mail : อีเมล์ในกรณีที่ลูกค้าต้องการสอบถาม
Customer Service Reply-to Email : อีเมล์ที่ใช้โต้ตอบกับลูกค้า
Customer Service Phone : เบอร์โทร หากเมลล์คุยกันไม่รู้เรื่องแล้วอยากให้โทรมา
Storefront Link : เหมือนเป็นการตั้ง Permanent Store Link นั่นแหละ แต่บังคับ ว่าต้องนำหน้าด้วย www.amazon.com/shops/

3. Legal Entity ประมาณว่า ชื่อทางการค้า หรือที่ใช้จดทะเบียนน่ะ น่าจะใช้ชื่อร้านก็ได้นะ









ถ้าอยากเปลี่ยน ก็กด edit ที่มุมขวาได้

4. Listing Status เป็นการตั้งสถานะในการแสดงของสินค้าในร้านทั้งหมด ปกติ จะอยู่ที่ ค่า Active เอาไว้ตอนที่หยุดยาว แล้วส่งของไม่ได้ หรือไม่อยู่ ก็ให้มาเปลี่ยนเป็น Inactive ไม่อย่างนั้น ส่งของไปถึงช้า แล้วลูกค้าจะโวย กลับมา ค่อยมาเปลี่ยนเป็น Active เหมือนเดิม โดยไม่ต้องไปเปลี่ยนสินค้าทีละรายการ









5. Deposit Method เพิ่ม หรือเปลี่ยน บัญชีที่ Amazon จะนำเงินเข้าบัญชีเรา เหมือนที่เคยได้อธิบายไว้แล้วครับ

ถ้าจะเปลี่ยนใช้บัญชีอันใหม่ ก็เลือก Use a new bank account แล้วก็ใส่ข้อมูลบัญชีใหม่

6. Charge Method อันนี้เป็นวิธีที่ Amazon จะเก็บเงินจากเรา ทั้งค่าธรรมเนียมต่าง ๆ หรือเวลาลูกค้าคืนของ แล้วเราจะต้องคืนเงิน วิธีมาตรฐานคือดึงจากบัตรที่เราใช้สมัคร แต่พอบัตรใกล้หมดอายุ เราจะโดนบังคับให้ใส่ข้อมูลบัตรใหม่ก่อนล่วงหน้า


 
 
ช่อง บน Select an Existinf Credit Card คือข้อมูลบัตรเดิมที่เราเคยใช้สมัครไว้แล้ว
ถ้าจะใส่บัตรใหม่ ให้เลือก Or, Enter a New Credit Card and Billing Address แล้วก็ใส่ข้อมูลบัตรใหม่ กับที่อยู่ให้ตรงกัน ในช่องด้านล่าง


7. Return Information เป็นที่อยู่ ที่ให้ลูกค้าส่งของคืน ปกติ ก็คือที่อยู่ที่ใช้ในตอนสมัครนั้นแหละ แต่ถ้าต้องการให้เป็นที่อยู่อื่น ก็มาตั้งไว้ที่นี่ได้
 
 
 
 เลือกไปที่ Enter a new address and phone number แล้วก็ใส่รายละเอียดลงไป

8. Your Merchant Token ไม่รุ้เหมือนกันว่าอะไร ตั้งไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้ เอาไว้ให้ดูเฉย ๆ


วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

การทำ amazon ในฐานะผู้ขาย(Amazon Seller Professional) ตอนที่1

        Sell Professionally ก็คือ ขายสินค้ามากกว่า 40 รายการต่อเดือน เพราะสินค้าที่ผมมีแผนว่าจะขายนั้นมีอยู่ประมาณ 300 รายการ โดยเสียค่าเปิดร้าน $39.99 ต่อเดือน และยังต้องเสียค่าธรรมเนียมหากขายได้อีก (แต่ละหมวดสินค้าก็ไม่เท่ากัน) แต่ไม่จำกัดจำนวนชิ้นเลย จะขายกี่ชิ้นก็ได้ ไม่มีกำหนดส่วนอีกแบบก็คือขายเป็นรายชิ้น คิดชิ้นละ $0.99 บวกค่าธรรมเนียม แต่แบบนี้ให้ขายได้ไม่เกิน 40 ชิ้นต่อเดือน แต่แบบรายเดือนจะมีข้อดีกว่า คือได้รับการโปรโมตมากกว่า สามารถกำหนดค่าส่งเองได้ถ้าไม่แน่ใจว่าสินค้าที่เล็งไว้ จะขายได้หรือเปล่า ลองแบบเป็นชิ้นก่อนก็ได้ครับ แล้วค่อยเปิดร้าน เพราะว่า $39.99 ต่อเดือนนี่ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันมาถึงขั้นตอนการสมัคร สำหรับAmazon.com
Amazon .com ไปที่หน้านี้ →http://www.amazonservices.com/content/sell-on-amazon.htm#
   
คลิ๊กที่ Start Selling ที่อยู่ในช่อง Sell Professionally (เดือนแรกฟรี) จะเข้าสู่ขั้นตอนการลงทะเบียนเป็นผู้ขายครับ


ช่องที่ 1 -- ใส่ชื่อ และนามสกุล ภาษาอังกฤษ ให้ตรงกับบัตรเครดิต (หรือเดบิต)
ช่องที่ 2 -- อีเมลล์ ที่จะใช้ในการสมัคร
ช่องที่ 3 –- พิมพ์อีเมลล์ อีกครั้งให้เหมือนเดิม
ช่องที่ 4 –- พาสเวิร์ด (ที่จะใช้ในการ Log in นะครับ ไม่ใช้ของอีเมลล์)
ช่องที่ 5 –- พาสเวิร์ด อีกครั้ง
ช่องที่ 6 -- ชื่อร้านที่จะใช้หรือชื่อธุรกิจ หากไม่มี ก็ใช้ชื่อเราก็ได้ แล้วก็กด Check box ด้านล่างเพื่อยืนยันว่ายอมรับข้อตกลงต่าง ๆ ส่วนในช่องทางขวามือ You are signing up for….. หากมีการรวมบริการอื่น นอกจาก Selling on Amazon – Professional แล้ว ให้กดปุ่ม Remove ออกให้หมดนะครับ ไม่งั้นโดนคิดค่าบริการเพิ่ม เสร็จแล้ว ก็กดที่ปุ่ม Continue ไป


Account Information
ช่องที่ 7 -- ชื่อร้านที่ต้องการให้แสดงใน Amazon
ช่องที่ 8 -- เหมือนกับช่องที่ 6 ของหน้าที่แล้วครับ เวปจะดึงข้อมูลมาเอง
ช่องที่ 9 -- ที่อยู่ ควรจะให้ตรงกับที่อยู่ของบัตรเครดิต
ช่องที่ 10 -- เมือง
ช่องที่ 11 -- จังหวัด
ช่องที่ 12 -- รหัสไปรษณีย์
ช่องที่ 13 –- ประเทศ
ช่องที่ 14 -- เบอร์โทรศัพท์ ที่ติดต่อได้จริง ๆ เพราะจะต้องมีการยืนยันด้วย ให้เริ่มด้วย +66 แล้วก็ตัด 0 ตัวเแรกของเบอร์ออก (หากมีเบอร์บ้าน ใช้เบอร์ที่บ้านดีกว่า เพราะ touch screen มักจะมีปัญหาเวลากดหมายเลย ตอนยืนยันตัวตน) เสร็จแล้ว ก็กดปุ่ม Continue ไปหน้าต่อไปได้เลยครับ
Credit Card
          หน้านี้เราต้องใส่ข้อมูลบัตรเครดิต พวก Be 1st หรือ K –web card ใช้ไม่ได้นะครับ
ช่องที่ 15 -- ชนิดของบัตร
ช่องที่ 16 -- ชื่อเจ้าของบัตร
ช่องที่ 17 -- หมายเลขบัตร
ช่องที่ 18 -- วันหมดอายุของบัตร เป็นรูปแบบ เดือน - ปี
ช่องที่ 19 -- ที่อยู่ในการส่งเอกสารของบัตรเครดิต หากเหมือนกับที่อยู่ในขั้นที่แล้ว ให้กดที่ Check box ได้เลย
ช่องที่ 20 -- หากไม่เหมือน ต้องใส่ที่อยู่ในช่องนี้ครับ ในขั้นตอนนี้ หากใส่ข้อมูลเสร็จ แล้วบัตรใช้ได้หลังจากกด Continue แล้ว ระบบจะทำการตัดเงิน $1.00 เพื่อทดสอบว่าบัตรใช้ได้จริงหรือเปล่าด้วยนะครับ
 
 
 
IDENTITY VERIFICATION
          คราวนี้ ระบบอัตโนมัติจะทำการโทรมาหาเราตามเบอร์โทรศัพท์ที่เราได้ใส่ไว้ โดยดูเบอร์ได้จาก Primary Business Number : แต่หากไม่สะดวก หรือไม่ได้เติมเงิน สามารถให้โทรมาที่เบอร์อื่นได้ โดยคลิกที่ No, call me in the next few minutes at: แล้วก็ใส่เบอร์โทรในช่องด้านล่าง (ไม่ต้องใส่ในช่อง ext) อยู่ในรูปแบบเดียวกัน ก็คือ ใส่ +66 ก่อน แล้วก็ตามด้วยเบอร์โทร โดยต้องตัดเลย 0 ข้างหน้าออกก่อนนะครับ พร้อมแล้ว ก็กดที่ Call me Now ได้เลย สัก 2-3 วินาที ก็จะมีชาวต่างชาติ โทรมาหาคุณ เขาจะพูดว่า Hello, this is automatic call from Amazon ……. ส่วนหน้าเวป ก็จะเปลี่ยนไปเป็นหน้านี้
 
 
         ให้กดตัวเลขทั้ง 4 ตัวที่ปรากฎ หลังคำว่า Your PIN : (ตัวเลขจะไม่เหมือนกันนะครับ อย่ากดตามหน้านี้ล่ะกัน) โดยไม่ต้องรอให้ลุงนั่นพูดจบครับ กดแทรกไปได้เลย ถ้ารหัสถูกต้อง หน้าเวป ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป โดยอัตโนมัติ เป็นขั้นตอน Identity verification complete แล้วก็กดวางโทรศัพท์ได้เลย
 
 
กด Continue ต่อไปได้เลย
 
 

 
 
       หน้าสุดท้าย ก็เป็นการสรุปข้อมูลทั้งหมด ที่เราใช้ในการสมัคร หากต้องการแก้ไขจุดไหน ก็ให้กดปุ่ม Edit ได้เลย และก็ยังสามารถ Add Bank Account ที่สำหรับใช้ในการรับเงิน ได้ตรงตำแหน่ง 21 ที่จะใช้ได้อย่างเดียว ก็คือรับเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ค (หรือหากมีบัญชี ที่สหรัฐ จริง ๆ ก็ใช้ได้นะครับ และยังมีอีกหลายที่) มาเข้าบัญชีในประเทศไทยนี่แหละ

        ถ้ายังไม่มีบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ ให้กด Confirm ไปก่อน ค่อยมา ใส่บัญชีทีหลังก็ได้
ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการสมัครครับ